Hello! 👋
Welcome (back), my unique and new readers to Mie's blog! 😄
I hope you are doing well and... be ready to read my blog!
สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ยินดีต้อนรับสู่บล็อกของมี่นะคะ! 😄
หวังว่าทุกคนจะสบายดีและพร้อมที่จะอ่านบล็อกของมี่กันนะคะ
This blog will be in Thai and English about my journey of getting an offer from NYU Steinhardt or "New York University Steinhardt School of Culture, Education, and Human Development." The applied major is the Master of Arts in International Education (INTS). 🇺🇸🗽✨
I want to write and blog in Thai and English (this is my first try!). If some of you do not know, English is not my first language, but I am trying my best to communicate with you guys to share my admissions experiences and journey to achieve my dreams. I hope you understand and forgive me for all the mistakes I have made on this blog :) I am not going to lie, I feel a bit overwhelmed and anxious to write this blog because I know some people will be "judgemental" about me, or the things I am doing, but I would love to give it a try. I know this blog will be helpful to some prospective students, so let's focus on sharing my experiences 😄
บล็อกนี้จะเป็นบล็อกเกี่ยวกับการที่มี่ได้ offer จากมหาวิทยาลัย NYU (New York University) หรือมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (โรงเรียน/คณะสไตน์ฮาร์ดทแห่งวัฒนธรรม ครุศาสตร์และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์) หรือเรียกสั้น ๆ เป็น "NYU Steinhardt" สาขาที่มี่สมัครคือ MA in International Education หรือการศึกษานานาชาติค่ะ ครั้งนี้มี่อยากลองทำบล็อกสองภาษา เป็นภาษาไทยและอังกฤษค่ะ บางคนอาจจะไม่รู้ ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแรกของมี่นะคะ แต่ว่ามี่พยายามอย่างสุดความสามารถในการสื่อสารกับทุกคนเพื่อแชร์ประสบการณ์การได้รับการตอบรับเข้าเรียนและเส้นทางที่มี่เดินเพื่อไปให้ถึงฝันค่ะ หวังว่าท่านผู้อ่านจะเข้าใจและอภัยข้อผิดพลาดของมี่ในบล็อกนี้ด้วยนะคะ :) มี่จะไม่โกหก มี่รู้สึกกลัว ๆ และกังวลในการเขียนบล็อกนี้เหมือนกัน เพราะรู้ว่าจะมีคนอ่านบางคนที่เข้ามาตัดสินกันในสิ่งที่มี่เป็น หรือสิ่งที่มี่ทำค่ะ แต่ก็ยังอยากลองทำอยู่ดี ก็เลยเขียนบล็อกนี้ค่ะ มี่รู้ว่าบล็อกนี้จะเป็นประโยชน์กับนักเรียนท่านอื่น ๆ ในอนาคต เลยอยากโฟกัสที่การแบ่งปันประสบการณ์คงดีกว่า 😄
😗 Here is my first blog in English: Mie's Admissions Journey to the UK and US Universities. The link is this one: https://www.miedyasha-wong.com/post/mie-admissions-journey-to-uk-and-us-universities. If you are interested in reading my previous blog, I was accepted to 5 universities previously with some partial scholarships to pursue my further studies. However, I think I am going to commit to the University of Exeter in England, the UK, because I chose U of Exeter at the very beginning, and my family has already paid for the dormitory deposit fees (hahaha). 😇
😗 บล็อกแรกของมี่ที่เป็นภาษาอังกฤษคืออันนี้นะคะ: Mie's Admissions Journey to the UK and US Universities หรือใครจะก๊อปลิงก์ไปก็ได้ค่ะ ลิงก์คือ https://www.miedyasha-wong.com/post/mie-admissions-journey-to-uk-and-us-universities นะคะ ถ้าใครสนใจที่จะอ่านบล็อกแรกของมี่นะคะ มี่ได้รับการตอบรับจาก 5 มหาวิทยาลัยก่อนหน้านี้พร้อมทุนบางส่วนเพื่อที่จะเรียนต่อในระดับขั้นที่สูงขึ้นค่ะ ยังไงก็ตาม มี่คิดว่ามี่คง committed กับมหาวิทยาลัย Exeter ในประเทศอังกฤษค่ะ 😇 เพราะเลือกที่นี่มาตั้งแต่แรก (มัดจำค่าหอไปแล้ว 5555)
Mie's accepted universities are | ลิสต์มหาวิทยาลัยที่มี่ได้รับการตอบรับ:
New York University (NYU), Steinhardt School of Culture, Education and Human Development, New York City, New York, USA (NYU Steinhardt) | มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก โรงเรียนสไตน์ฮาร์ดทแห่งวัฒนธรรม ครุศาสตร์และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
George Washington University (GW/GWU), Graduate School of Education and Human Development (GSEHD), Washington DC, USA, with a GSEHD Merit Scholarship (24,000 USD scholarship) | มหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน คณะครุศาสตร์และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ณ กรุงวอชิงตันดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมทุนการศึกษาบางส่วนจำนวน 24,000 ดอลล่าร์สหรัฐ
University of Exeter, with an automatic 5,000 GBP scholarship for Thai students | มหาวิทยาลัยเอ็กซิเตอร์ พร้อมทุนนักเรียนไทยจำนวน 5,000 ปอนด์
University of Bath, Bath, the UK | มหาวิทยาลัยบาธ เมืองบาธ ประเทศอังกฤษ
University of Sussex, the UK | มหาวิทยาลัยซัสเสกซ์ เมืองไบรตัน ประเทศอังกฤษ
University of San Francisco, School of Education, California, USA | มหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโก โรงเรียนการศึกษา รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
Below is a little bit of my personal background, if it helps you understand who I am or how I went from being an average Thai student to being accepted into a top 50 university like NYU Steinhardt. (Did not mean to brag or flex or anything, though. 🥹)
ข้างล่างเป็นประวัติส่วนตัวคร่าว ๆ ของมี่นะคะ หวังว่าจะช่วยให้คุณผู้อ่านเข้าใจตัวตนของมี่ และการที่มี่มาจากการเป็นนักเรียนไทยระดับกลาง ๆ มายังการถูกตอบรับเข้ามหาวิทยาลัย top 50 อย่าง NYU ค่ะ (ไม่ได้อวดหรืออะไรน้า แง 🥹)
I studied and graduated from a Thai private school–a Thai curriculum school with Mathayom 6 Certificate. I was majoring in Language Arts in English and French. I did not attend a bilingual or an international school since I was young. I have tried so hard to keep going from A2 Pre-Intermediate English level to C1 Advanced after I graduated from MUIC. I know my English is not perfect, but this shows my perseverance and determination. I never give up on learning English, and thank you myself for keeping going! My IELTS Academic UKVI scores are overall 7.0, Listening 7.5, Reading 7.5, Writing 7.0 and Speaking 6.5. I also submitted the Duolingo English Test with an overall score of 130 (each component was not less than 120). I do not mean to say that I am perfect or that I am the best, but I feel like I have come so far. This is one of my greatest achievements and I can be proud of myself. 😆 (Don't want to sound arrogant or narcissistic, though. But I did say it so many times that I am not perfect. 😅)
มี่จบจากโรงเรียนเอกชนหลักสูตรไทยปกติค่ะ ไม่ได้จบอินเตอร์มา ไม่ได้เรียนอีพีมาตั้งแต่เด็ก จบด้วยวุฒิม.6 มี่เรียนสายภาษาอังกฤษกับฝรั่งเศสมาค่ะ มี่พยายามเรียนภาษาอังกฤษมาจากระดับเบื้องต้นจนตอนนี้อยู่ระดับขั้นสูงหลังจากจบ MUIC ค่ะ มี่รู้ว่าภาษาอังกฤษมี่ไม่ได้เพอร์เฟค แต่มันแสดงความมุมานะและความตั้งใจของตัวมี่เอง มี่ไม่เคยยอมแพ้ในการเรียนภาษาอังกฤษเลยค่ะ อยากขอบคุณตัวเองตรงนี้มากที่ยังไปต่อเรื่อย ๆ ผลสอบ IELTS มี่ได้ overall 7.0 (ฟัง 7.5, อ่าน 7.5, เขียน 7.0, พูด 6.5) ค่ะ และส่งผลสอบ Duolingo ด้วยคะแนนรวม 130 ค่ะ ไม่มีพาร์ทไหนน้อยกว่า 120 ค่ะ ไม่ได้บอกว่าตัวเองเก่ง แต่รู้สึกว่ามาได้ขนาดนี้คือไกลแล้วค่ะ และมันไม่ได้เพอร์เฟค แต่มี่รู้สึกว่ามี่ภูมิใจในตัวเองได้แล้วค่ะ 😆 (ไม่อยากให้คนคิดว่าจองหองหรือหลงตัวเองด้วยค่ะ แต่ก็พูดไปหลายรอบแล้วว่ามี่ไม่ได้เพอร์เฟคนะคะ 😅)
As an undergraduate, I graduated from Mahidol University International College (MUIC) with a Bachelor of Communication Arts in Media and Communication (Creative Content Concentration and Film Production Major Electives), First-Class Honours with a Cumulative GPA of 3.53/4.0 (184 total credits). The US equivalency GPA after evaluation is 3.49 on a 4.0 scale from the World Education Services (WES). (It was almost 3.5, can't you give me 0.01 more, haha 😂). It is equivalent to US total credits of 122.5 (credits).
มี่จบปริญญาตรีจากวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล (MUIC) (สามารถคลิกลิงค์เพื่ออ่านบล็อกมี่ได้นะ) ด้วยนิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาสื่อและการสื่อสาร (แขนงวิชาการสร้างเนื้อหางานสร้างสรรค์ และการผลิตภาพยนตร์) เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เกรดเฉลี่ย 3.53 ค่ะ จบด้วย 184 หน่วยกิต เกรดเฉลี่ยที่เทียบกับอเมริกาเป็น 3.49 หลังจากเทียบวุฒิกับ World Education Services (WES) ค่ะ (เกือบจะ 3.5 แล้ว ขออีก 0.01 ไม่ได้หรอ 555 😂) หน่วยกิตมหาวิทยาลัยอเมริกาเทียบเท่าได้ 122.5 เครดิตค่ะ
I also attached my media thesis/dissertation (around 8,000 words in English) when I did and produced the short film called "The Secret Zong" as a part of my application to show my ability to be creative, the producer of this project and how I was committed to this project for an academic year. I never thought I would post it here, but here I go (hehe).
มี่ได้แนบธีสิสที่ทำไปประมาณ 8,000 คำในภาษาอังกฤษไปตอนที่ทำหนังสั้นเรื่องเดอะ ซีเคร็ทซอง ด้วยค่ะ (เข้าไปชมหนังสั้น ฟังเพลงได้นะคะ) เพื่อที่จะโชว์ความสามารถด้านครีเอทีฟ เป็นโปรดิวเซอร์โปรเจ็คนี้ และการที่มี่ committed กับการทำโปรเจ็คมา 1 ปีการศึกษาเต็ม ๆ มี่ไม่คิดว่าจะโพสต์งานที่นี่ แต่ here i go ค่ะ 5555
Those are all 3 facts I have about my application to NYU Steinhardt. I will share more afterwards. This blog is like a walk-through blog for someone who wants to apply to NYU Graduate School as an average (yeah, I am a mid) student like Mie! ^^
นี่เป็น 3 ข้อเท็จจริงของใบสมัครมี่ไปยังมหาวิทยาลัยนิวยอร์กค่ะ จะแชร์มากกว่านี้ในบล็อกนี้นะคะ เป็นบล็อกที่แนะนำคร่าว ๆ สำหรับใครที่อยากสมัครป.โท มหาวิทยาลัย NYU ค่ะ มี่เองก็เป็นเด็กไทยธรรมดาคนนึงเช่นกันค่า ^^
WES or ECE Evaluation | การนำเอกสารไปให้ WES or ECE ประเมินใบเกรดจากประเทศไทย
WES Evaluation หน้าตาจะประมาณนี้ค่ะ
If you graduated (undergraduate or postgraduate) outside the US and/or Canada, you MUST submit an evaluated transcript from either WES or ECE. NYU Steinhardt requires all students who graduated from a university, college or institute outside the US and/or Canada to do this. I used WES or World Education Services to evaluate my transcript from MUIC, Thailand. It costs around 208 USD for the ICAP course-by-course evaluation. To send the transcript to NYU Steinhardt, you should visit this page for further information. The delivery fees were 33 USD (an additional copy) + 12 USD (standard delivery) = 45 USD for an electronic copy to NYU Steinhardt. If you are an MUIC or Mahidol University graduate, you can ask the MUIC Registrar to submit the documents (transcript and certificate of graduation) to WES directly. It took me 3 weeks before I could get my evaluation. I submitted my document on 7 June 2024 and got my evaluated transcript on 28 June 2024. Please be reminded that it can take longer than this. I saw a lot of negative reviews or feedback about WES on Facebook. Some people have been waiting for more than 3-4 months and have not got their completed evaluations. 🥹
ถ้าจบจากปริญญาตรีหรือขั้นการศึกษาอื่น ๆ นอกเหนือจากในสหรัฐอเมริกาหรือแคนาดา จะต้องส่งใบเกรดแบบถูกประเมินแล้วโดย WES หรือ ECE ค่ะ มี่ใช้ WES หรือ World Education Services ในการประเมินใบเกรดของมี่จาก MUIC ค่ะ ที่มี่จ่ายก็จ่ายไปประมาณ 208 USD สำหรับตัว ICAP course-by-course ค่ะ เพื่อที่จะส่งใบเกรด มี่แนะนำให้เข้าไปดูลิงก์ที่มี่แปะไว้ข้างบนได้เลยค่ะ เขามีอธิบายไว้ละเอียดมาก ๆ ตัวค่าส่งอยู่ที่ 33 USD สำหรับใบเกรดเพิ่มเติม และอีก 12 USD เป็นค่าส่งแบบ electronic ไปหา NYU Steinhardt ค่ะ ถ้าเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล สามารถติดต่อฝ่ายทะเบียนในการส่งเอกสาร (ใบเกรดกับใบรับรองจบ) ไปยัง WES โดยตรงค่ะ มี่รอทั้งหมด 3 อาทิตย์ก่อนจะได้ใบประเมินเกรดค่ะ มี่ส่งเอกสารไปตอน 7 มิถุนายน 2024 และได้ใบประเมินตอน 28 มิถุนายน 2024 ค่ะ รอ 21 วันเต็ม ๆ มันอาจจะนานกว่านี้ก็ได้นะคะ มี่เห็นรีวิวด้านลบของ WES บนเฟสบุ๊กค่อนข้างเยอะค่ะ คนบางคนรอมา 3-4 เดือนยังไม่ได้เลย 🥹
From my experience with World Education Services (WES), it was not great either. My American friend said WES was not very helpful at all when she tried to call them on my behalf. I was supposed to receive my evaluation from WES on 26 June 2024, but it was sent to me on 29 June 2024. My WES status was frozen since 12 June 2024 and I had to wait patiently. Back at that moment, I was supposed to have the evaluation BEFORE 1 July 2024 since it is the deadline for the extended deadline application round. However, I decided to pay 430 USD more to ECE to get another evaluation. ECE worked so fast, was very helpful and sent the completed evaluation back to me within 4 days (weekends included). I submitted my application, and MUIC sent my transcripts and certificate of graduation to ECE on Friday. I received my report on Tuesday (I paid 80 USD for the rush services since I have a deadline to meet, as they recommended). The thing you must know about ECE is that your GPA will drop by approximately 0.12 (my CGPA decreased from 3.53 to 3.41, which is a lot), while my CGPA with WES changed from 3.53 to 3.49, which means it is just a 0.04 difference–which is acceptable. It seems like WES has conducted better research on Thai universities. From what I understand, they have to work on conducting the research before they can evaluate your grades.
จากประสบการณ์ของมี่กับ World Education Services (WES) มันไม่ค่อยจะดีค่ะ เพื่อนคนอเมริกันบอกว่า WES ไม่ค่อยเต็มใจจะช่วยเหลือเท่าไหร่ตอนที่โทรหา WES ให้ในนามของมี่เอง มี่ต้องได้เอกสารตั้งแต่ 26 มิ.ย. 2024 แล้ว แต่เอกสารถูกส่งให้มี่ตอน 29 มิ.ย. 2024 ตอนนั้นสเตตัสไม่อัพเดทด้วยค่ะ มันค้างอยู่ที่ 12 มิ.ย. 2024 แล้วต้องรอนานมาก ตอนนั้น มี่ต้องได้ transcript ก่อน 1 ก.ค. 2024 เพราะมีเดดไลน์เป็นวันนั้นพอดีค่ะ มี่เลยตัดสินใจจ่ายเงิน 430 USD ส่งเอกสารหา ECE เพื่อเอาเอกสารใบประเมินเกรดอีกใบ ECE ทำงานเร็วมากค่ะ ช่วยเหลือดีมาก และส่งเอกสารมาให้มี่ภายใน 4 วันเลย (รวมวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ด้วย) มี่ส่งเอกสารและ MUIC ส่งใบเกรดให้ตอนวันศุกร์ มี่ได้รีพอร์ทตอนวันอังคาร (มี่จ่าย 80 USD สำหรับ rush services ทาง ECE แนะนำบริการนี้เพราะมีเดดไลน์) สิ่งที่ต้องรู้คือ ถ้าทำใบเกรดกับ ECE อะค่ะ เกรดจะตกลงมา 0.12 เลย ซึ่งเยอะมากนะคะ (เกรดมี่ตกจาก 3.53 มา 3.41 ค่ะ) ในขณะที่ของ WES เกรดลดนิดหน่อยจาก 3.53 มา 3.49 ค่ะ นั่นหมายความว่ามันลดลงมาแค่ 0.04 เองค่ะ มันยังอยู่ในเกณฑ์ที่พอรับได้ค่ะ มี่มองว่า WES ทำวิจัยด้านมหาวิทยาลัยไทยมาดีกว่าค่ะ จากที่เข้าใจคือ บริษัทพวกนี้ต้องทำวิจัยก่อนจะมาประเมินเกรดค่ะ
หน้าตาของ ECE แบบ course-by-course report ค่ะ
ECE: faster and more reliable services, great service, meeting the deadline on time (actually, it was sent earlier), pretty reasonable prices. However, my CGPA dropped from 3.53 to 3.41 with 122.67 US equivalency credentials. They evaluated everything based on a US university (your credit hours, CGPA and GPA for each course). My university has a thing like a B+ or C+, but ECE changed my grade to B or C instead. This means your CGPA and GPA for each course will definitely be lower than expected.
ECE: เร็วกว่า บริการน่าไว้ใจมากกว่า บริการดี ส่งงานตรงเดดไลน์ (จริง ๆ ส่งก่อนค่ะ) ราคาค่อนข้างโอเค แต่ เกรดเนี่ย จะตกจาก 3.53 มา 3.41 เลยค่ะ ด้วยเครดิต 122.67 เมื่อเทียบกับฝั่งอเมริกาค่ะ ทาง ECE จะประเมินทุกอย่างเป็นพื้นจากมหาวิทยาลัยของอเมริกาค่ะ เช่น พวกชั่วโมงการเรียน เกรดเฉลี่ยโดยรวม เกรดแต่ละวิชา มหาวิทยาลัยของมี่จะมีเกรดแบบ B+, C+ แต่ ECE เปลี่ยนเกรดมี่เป็น B ล้วนหรือ C ล้วนไปเลย นั่นแปลว่าเกรดเฉลี่ยและเกรดแต่ละวิชาจะตกลงมาแน่ ๆ ค่ะ (เละ 55555)
WES: I initially used WES in July 2023 for my first incomplete evaluation to submit my transcript to The George Washington University (GW). The price is quite expensive and the service at that time was on time. However, I was not impressed when I went back to WES for the second evaluation. The only thing I like about WES is that they have done some decent research about my degree, university and good CGPA. While their services and response time are absolutely terrible. WES is not reliable at all. From what I read on the WES Facebook page, you might have to submit the document(s) 3-4 months in advance, if you really need to use WES services.
WES: มี่ใช้บริการของ WES ครั้งแรกตอนเดือนกรกฎาคม 2023 ค่ะ เพราะตอนนั้นส่งแบบที่เป็น incomplete evaluation ไปหามหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตันค่ะ ราคาค่อนข้างสูง และการบริการตอนนั้นคือส่งเกรดตรงเวลาค่ะ แต่ แต่ แต่ มาตอนนี้มี่ไม่ประทับใจเลยค่ะ ตอนกลับไปใช้บริการการประเมินเกรดกับ WES รอบที่สอง สิ่งเดียวที่มี่โอเคกับ WES เขาทำการวิจัยเรื่องวุฒิ มหาวิทยาลัย และให้ CGPA ดีค่ะ แต่บริการกับการตอบกลับคือแย่มากจริง ๆ WES ไม่ค่อยน่าไว้วางใจเท่าไหร่ค่ะ จากที่อ่านมาจาก WES บนเฟสบุ๊ค มี่ว่าถ้าอยากใช้บริการ WES จริง ๆ ควรเผื่อเวลาอย่างน้อย 3-4 เดือนค่ะ
The most important thing: INTS Short Essays | สิ่งสำคัญคือ การเขียนเอสเสย์
The INTS or International Education Short Essays had 4 questions when I applied to NYU Steinhardt for Fall 2024. I believe this is the most important thing that the university gets to know you better. I will walk you through about things I have written in my INTS essays. This is all my PERSONAL EXPERIENCE, and I do not expect anyone to understand or agree with me on this matter. I have already paraphrased everything with AI before sharing it with you on this blog to prevent plagiarism. THIS IS NOT THE DRAFT THAT I SENT TO NYU. If someone tries to copy me, I hope you get rejected from your dream universities because this is called "dishonesty." I shared this with you as guidance ONLY. I will NOT translate my essays from English to Thai since, as a postgraduate student, I believe that your English proficiency should be up to the standard by now. I do not want to translate everything from English to Thai (hehe). 😅
ตัว INTS หรือ International Education เอสเสย์มี 4 คำถามค่ะ ตอนที่มี่สมัคร NYU Steinhardt สำหรับเทอม Fall 2024 นะคะ มี่จะพาจับมือทำค่ะเกี่ยวกับสิ่งที่มี่เขียนลงไปใน INTS essays อันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของมี่และมี่ไม่ได้คาดหวังให้ใครมาเห็นด้วยหรือเข้าใจนะคะ มี่พาราเฟรสหมดแล้วด้วย AI นะคะ มี่ไม่ได้ส่งดราฟท์เหล่านี้ไปให้ทาง NYU ค่ะ ถ้าใครจะก๊อปหรือจะอะไร มี่ขอให้ถูกปฏิเสธจากมหาวิทยาลัยที่อยากเข้าทุกที่เลยค่ะ เพราะมันคือความไม่ซื่อสัตย์ค่ะ มี่มาแชร์เพื่อเป็นไกด์ให้เฉย ๆ เท่านั้นค่ะ จะไม่แปลเอสเสย์นะคะ พาร์ทนี้ เพราะว่าในฐานะเด็กปริญญาโท มี่คิดว่าทักษะภาษาอังกฤษหลาย ๆ คนน่าจะถึงมาตราฐานที่เข้าเรียนได้แล้วค่ะ ใครอยากเข้าใจภาษาไทย ลองเอาไปแปลดูนะคะ ไม่รู้จะเขียนแปลยังไงดีน่ะค่ะ แหะ ๆ 😅
The first question is, "What from your past experience leads you to want to pursue a degree in International Education?"
คำถามที่เขาถามคำถามแรกคือ "อะไรจากประสบการณ์ในอดีตที่ทำให้คุณอยากเรียนต่อในสาขาการศึกษานานาชาติ?"
My answer is: "I was a student under the Thai curriculum for fifteen years while growing up as a Thai citizen. This has significantly influenced my fervent aspiration to spearhead educational reform on a global scale. I have personally experienced inequality in Thailand as a result of my educational heritage; it is a pervasive issue in all types of schools in Thailand, including public, private, religious-affiliated, bilingual, and international schools. Undoubtedly, there is a correlation between an individual's financial resources and their educational opportunities: the calibre of education and the qualifications they obtain are directly proportional to the amount of money they pay. Practicality was absent from the majority of the courses offered at my Thai Catholic school. The students were compelled to enrol in private tutoring institutions as a result of the curriculum's deficiencies, which ultimately benefited those who could afford the tuition. Numerous privileged students pursued private tutoring to prepare for exams that were not included in their curriculum. The rationale for this action was to enhance their academic performance in comparison to those who do not have the opportunity. This case illustrates a concerning trend: students who have access to additional financial resources for tutoring tend to outperform their classmates in terms of knowledge acquisition. This disparity was evident to me when I began applying to institutions in Norway and Germany for my undergraduate degree, to further elaborate on the previous issue of the practicality of the Thai curriculum. This was the result of the Thai High School Certificate, "Mathayom 6," not being recognised. This revelation underscored a more extensive issue: the curriculum prioritises "rote memorization over real-life applications," which is the reason for the limited international recognition of Thai qualifications. This inequality not only obstructs Thailand's potential for progress but also deprives individuals of opportunities, particularly among the impending generations. Thai pupils' English proficiency is inadequate, according to my assessment. English must be a communication instrument, not an elite learning option for certain individuals. The limited proficiency is scarcely passed if they exclusively study the Thai curriculum. The Thai curriculum did not provide me with the necessary support to improve my English proficiency, and I was only able to achieve my current level of proficiency as a result of my eagerness to learn."
มี่ตอบไปคร่าว ๆ ประมาณว่า: มี่เป็นคนหนึ่งที่เรียนในระบบโรงเรียนไทยมา 15 ปีในฐานะคนไทย มี่ก็เล่าไปว่าพบเจออะไรมาบ้าง หลัก ๆ คือหลักสูตรไทยขาดการประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง มี่เห็นความไม่เท่าเทียมทั้งโรงเรียนรัฐบาล เอกชน สองภาษา และโรงเรียนอินเตอร์หรือนานาชาติ มันปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้าคุณจ่ายเงินมากกว่า คุณก็ได้โอกาสด้านการเขียนที่มากกว่า วุฒิการศึกษาที่มีคุณภาพมากกว่า เด็กไทยจำนวนมากต้องเรียนติวเพิ่มเติมเพื่อที่จะเตรียมตัวสอบที่ไม่ถูกสอนในห้องด้วยซ้ำ ที่พวกเขาทำไปทั้งหมดนี่เพื่อที่จะทำให้ผลการเรียนตัวเองดีขึ้นล้วน ๆ ถ้าเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่นที่ไม่มีโอกาสแล้ว มันทำให้เห็นว่าเคสนี้จะก่อให้เกิดปัญหาที่น่าเป็นห่วงในระยะยาว วุฒิม.6 เมืองไทยทำให้เห็นชัดไปอีกตอนที่มี่อยากสมัครมหาวิทยาลัยในนอร์เวย์และเยอรมนี แต่ก็สมัครไม่ได้เนื่องจากวุฒิม.6 ไทยมีค่าและคุณภาพไม่เท่ากับวุฒิการศึกษาในยุโรป การเรียนในระบบไทยนั้นเน้นท่องจำมากกว่าการนำไปใช้ในชีวิตจริง นอกจากนี้การเรียนภาษาอังกฤษในระบบการศึกษาไทยก็ค่อนข้างจะแย่ เนื่องจากเด็กจำนวนมากยังไม่สามารถสื่อสารได้และอยู่ที่ระดับประมาณ A2 เท่านั้น หลักสูตรไทยไม่ได้ตระเตรียมการสนับสนุนในเรื่องการพัฒนาภาษาอังกฤษเลย ตัวมี่เองมาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะความตั้งใจที่จะเรียนรู้ด้วยตัวเองทั้งนั้น
The second question is, "In what ways do your past experiences prepare you to succeed in this degree?
คำถามที่สองคือ "ในทางใดที่ประสบการณ์ในอดีตจะเตรียมคุณให้ประสบความสำเร็จในการเรียนปริญญาโทในหลักสูตรนี้?"
I wrote that: "My fifteen years of experience in the Thai education system and nearly four years in the international curriculum have provided me with a profound understanding of educational disparities. These experiences instilled in me the significance of equitable access to quality education and fueled my fervour for educational reform. I pursued a bachelor's degree at MUIC after completing Mathayom 6. Through rigorous coursework and immersive language experiences, I have developed a more comprehensive comprehension and fluency in the English language. This ability is essential for my academic performance at NYU Steinhardt and equips me with the necessary skills to participate in cross-cultural communication and collaboration. For the duration of my undergraduate studies, I pursued opportunities to enhance my comprehension of educational systems and methodologies. I engaged in a variety of extracurricular activities and internships that provided me with exposure to a variety of educational environments and practices. For instance, in my capacity as a student advisor and public relations assistant at my college, I collaborated closely with students from a variety of backgrounds to assist them in adjusting to new cultural environments, particularly Thai culture, which can be difficult for some international students. This position honed my capacity to advocate for the needs of students and comprehend the perspectives of a diverse multicultural population. These are critical competencies for success in the field of international education. I served as an ... Coach at .... and volunteered as an English teacher at .... in the field of education. I am dedicated to sharing my English or language acquisition journey with NYU's international students' community, despite the fact that it may not be directly related to international education. Some students continue to experience difficulty speaking or comprehending English. These roles provided me with an understanding of the reason I dedicate myself to teaching English, assisting and coaching students in their language acquisition, and striving to reduce the language barriers of all non-native speakers in various regions of the world as a component of an internationalising education system that ensures equal opportunities for all, irrespective of the boundaries. In addition to my dedication to advancing the education system, my experience as a Corporate Communication Intern at ... has also equipped me with the skills necessary to excel as a student. I have acquired experience in the areas of media monitoring, content creation, and corporate social responsibility initiatives. Attention to detail, organisational skills, and the capacity to communicate intricate information in a plain and persuasive manner were all necessary for these positions. These experiences have equipped me with the necessary skills to effectively communicate, manage projects, and compete against time, all of which are essential competencies for graduate students."
มี่ตอบไปคร่าว ๆ ว่า: ประสบการณ์การเรียนในระบบไทยมา 15 ปีและเกือบ 4 ปีในระบบมหาวิทยาลัยนานาชาติ ทำให้มี่เห็นความไม่เท่าเทียมกันในระบบการศึกษา ประสบการณ์เหล่านี้ ทำให้มี่เห็นความสำคัญของการที่มีการศึกษาที่มีคุณภาพและสามารถเข้าถึงได้ มันเลยทำให้มี่อยากเห็นการปฏิรูปการศึกษา ตัวมี่มาเรียนที่ MUIC หลังจบม.6 ซึ่ง MUIC ก็เตรียมมี่เรื่องการเรียนมาอย่างดี ทั้งเรื่องภาษาอังกฤษ และเชิงวิชาการซึ่งมี่เชื่อว่ามันสำคัญสำหรับการเรียนต่อที่ NYU Steinhardt ในเรื่องของการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมและการมีส่วนร่วมในวัฒนธรรมต่าง ๆ ระหว่างการเรียนที่ MUIC มี่ได้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เช่น กิจกรรมนอกห้องเรียนและการฝึกงานที่เตรียมมี่ให้พร้อมสำหรับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ และการประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง มี่ได้ทำอาสาเป็น student advisor หรือคนให้คำแนะนำด้านการเรียนและด้าน PR (public relations) ที่มี่ได้ทำงานกับนักเรียนคนอื่นอย่างใกล้ชิด ช่วยเหลือนักศึกษาต่างชาติปรับตัวเข้าสู่วัฒนธรรมในไทย นอกจากนี้ สิ่งเหล่านี้ทำให้มี่เข้าใจวัฒนธรรมที่หลากหลายจากเพื่อนนักเรียนคนอื่น ซึ่งเป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่ทำให้มี่เข้าใจการศึกษานานาชาติ มี่เคยทำงานเป็น ... โค้ชภาษาอังกฤษ ที่ ... และครูอาสาด้านการสอนภาษาอังกฤษที่ ... เพื่อแบ่งปันประสบการณ์การเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง และประสบการณ์เหล่านี้กับนักศึกษานานาชาติที่ NYU ถึงแม้มันจะไม่ตรงกับการศึกษานานาชาติโดยตรง แต่มันทำให้มี่อยากอุทิศตนเองในการสอนภาษาอังกฤษต่อไปและช่วยเหลือนักเรียนคนอื่น ๆ เพื่อลดกำแพงด้านภาษาสำหรับนักศึกษาที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ นอกจากนี้ การฝึกงานด้านการสื่อสารองค์กรที่ ... ยังช่วยมี่เรื่องสื่อ และการทำคอนเทนต์ด้วย รวมถึงการรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร (CSR) ทักษะเหล่านี้ทำให้มี่สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ จัดการโปรเจ็คต่าง ๆ ได้ และการแข่งกับเวลา ที่ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญต่อการเรียนปริญญาโท
The third question is, "Why this specific degree and program? For example, what interests you most about one or both of the two Fields of Specialization in International Education, which classes are you interested in taking and/or professors are you most interested in learning from?"
คำถามที่สาม "ทำไมต้องเรียนโปรแกรมนี้? ตัวอย่างเช่น อะไรทำให้คุณสนใจแทร็กที่อยากเลือกในการศึกษานานาชาติ คลาสไหนที่ทำให้คุณสนใจบ้าง และ/หรืออาจารย์คนไหนที่คุณอยากเรียนด้วยมากที่สุด?"
I elaborated that: "The Cross-Cultural Exchange and Study Abroad track has genuinely captivated me. The potent influence of cross-cultural interactions was demonstrated to me during my tenure as a volunteer student advisor, where I collaborated with a variety of student populations. This track will assist me in comprehending the positive impact of meaningful cultural exchanges on the development of students. There are numerous courses in the programme that attract my interest. The course "New Immigration and Education in the World" provides a profound comprehension of the educational obstacles and opportunities encountered by immigrant communities, which is essential for my objective of advocating for educational reforms in Thailand and Southeast Asia. "The Practice of Study Abroad and International Student Services" offers a practical perspective on the support required for international students and the practical aspects of study abroad programmes. "International Studies in Human Rights Education" will teach me how to reconcile cultural disparities, a critical ability for fostering educational inclusivity and equity. Learning from the esteemed faculty at NYU Steinhardt is a substantial attraction. Dr. ....'s emphasis on the sociology of education and immigrant education is consistent with my interest in comprehending the educational experiences of minority and immigrant students, which is essential for the establishment of inclusive educational environments. Due to language barriers, cultural distinctions, and mental health issues, including anxiety, it may be difficult to adjust to the educational system of another country. Dr. ....'s research on the role of education in promoting peace in conflict zones is particularly inspiring. I am eager to implement the insights she has gained from her research to enhance the educational systems in Southeast Asia. The MA in International Education emphasises the acquisition of cross-cultural understanding, a comprehensive curriculum, and the instruction of distinguished faculty. This programme will equip me with the knowledge and abilities necessary to effect meaningful change in global education systems. This programme also provides a distinctive opportunity to enhance my English and communication abilities, enhance my comprehension of educational theory and practice, and contribute to global educational reform. I am enthusiastic about the prospect of applying my skills and experiences to this programme, as my previous experiences have fueled my passion for educational reform and language instruction. I aspire to be a catalyst for this global shift towards educational equity and inclusivity."
มี่ตอบไปว่า: มี่อยากเรียนสาย Cross-Cultural Exchange and Study Abroad Track เพราะว่าเรื่องการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมหรือการปฏิสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรม การเรียน Track นี้จะช่วยทำให้มี่เข้าใจผลกระทบเชิงบวกและเส้นทางนี้จะช่วยให้มี่เข้าใจถึงผลกระทบเชิงบวกของการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่มีความหมายต่อการพัฒนาของนักเรียน มีคอร์สเรียนต่าง ๆ ที่มี่สนใจอยู่ทั้งหมด 3 คอร์ส มี่ก็อธิบายไปว่าทำไม แล้วก็อธิบายอาจารย์ 2 คนที่อยากทำงานด้วยหรือเรียนด้วย เพราะอะไร อธิบายหลักสูตรว่าทำไมอยากเรียนอันนี้ มี่ก็ปิดจบไปด้วยว่า "มี่มีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับโอกาสที่จะได้ใช้ทักษะและประสบการณ์ของมี่กับโปรแกรมนี้ เนื่องจากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ได้เติมพลังให้กับความหลงใหลในการปฏิรูปการศึกษาและการสอนภาษา มี่ปรารถนาที่จะเป็นตัวเร่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับโลกต่อความเสมอภาคทางการศึกษาและการไม่แบ่งแยกทางการศึกษา" (อันนี้ไม่รู้จะแปลยังไงจริง ๆ แปลยากมาก 5555 เพราะตอนคิด essay คืออิ้งล้วนเลย)
The last (fourth) question is, "What job or further study are you interested in pursuing after graduation?"
คำถามสุดท้ายคือ "อาชีพอะไรที่คุณอยากทำ หรือ อยากเรียนต่อหลังจากที่เรียนจบแล้ว"
My response was: "I intend to pursue a career that enables me to make a tangible impact in the field of education, with a particular emphasis on the promotion of global educational equity and inclusivity, following my graduation. I am eager to pursue employment as an education researcher at a non-profit organisation, such as .... I am committed to conducting research on critical education issues and identifying practical solutions as part of my duties. I endeavour to provide valuable insights into international endeavours to improve educational systems, with a particular emphasis on those in Thailand and Southeast Asia. I am also interested in the opportunity to work as a part-time International Student Advisor, where I would provide assistance to students from a variety of cultural backgrounds as they embark on their educational journeys abroad. I am committed to offering personalised guidance and support to assist international students in adapting to new social environments and thriving in their distinctive academic journeys, leveraging my cross-cultural communication skills and experiences as a student advisor. I plan to continue to employ my expertise in photography, communication, and media to increase awareness of educational issues through digital platforms. I will accomplish this by blogging on my website, social media, or other online platforms. Through this medium, I will be able to disseminate research findings, promote educational reform, and encourage discussion on significant educational subjects. I am amenable to the pursuit of a doctoral/PhD degree in Education or a related discipline, with a particular emphasis on educational leadership, cross-cultural education, or international education policy. I endeavour to strengthen my influence in the field and contribute to scholarly discourse on critical educational issues by furthering my knowledge and expertise through doctoral studies. I am enthusiastic about the promotion of a collaborative approach to educational reform, in addition to my professional and academic objectives. The establishment of robust networks with educators, policymakers, and researchers from various countries is essential for the promotion of sustainable change. I aspire to remain at the vanguard of educational innovation and contribute to the development of sustainable best practices that can be implemented globally by engaging with global education communities and participating in international conferences. I aspire to actively participate in the development of the future of education on a global and local scale. I am committed to fostering a world in which quality education is accessible to all, thereby establishing a more equitable educational landscape, whether through research, advocacy, advising, or further study."
มี่ตอบไปว่า: มี่ตั้งใจที่จะประกอบอาชีพที่ช่วยให้มี่สามารถสร้างผลกระทบที่ดีที่สามารถจับต้องได้ในด้านการศึกษา โดยเน้นไปที่การส่งเสริมความเสมอภาคทางการศึกษาระดับโลก หลังจากสำเร็จการศึกษา มี่กระตือรือร้นที่จะหางานทำในฐานะนักวิจัยด้านการศึกษาในองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร เช่น .... (ชื่อองค์กร) มี่มุ่งมั่นที่จะทำการวิจัยเกี่ยวกับประเด็นการศึกษาที่สำคัญและระบุแนวทางแก้ไขเชิงปฏิบัติซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่ มี่พยายามที่จะให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับความพยายามของนานาชาติในการปรับปรุงระบบการศึกษา โดยเน้นไปที่ประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ นอกจากนี้มี่ยังสนใจที่จะมีโอกาสทำงานเป็นที่ปรึกษานักเรียนต่างชาตินอกเวลาด้วย โดยมี่จะให้ความช่วยเหลือนักเรียนจากภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่หลากหลายในขณะที่พวกเขาเริ่มต้นการเดินทางด้านการศึกษาในต่างประเทศ (เพราะมี่เข้าใจว่ามันยากขนาดไหน และต้องใช้โอกาส เวลา ความอุตสาหะ เงิน และความกล้าหาญอย่างมาก) มี่ปิดจบท้ายว่า... มี่อยากให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้ ไม่ว่าจะผ่านการวิจัย ให้แนะนำ หรือการศึกษาต่อเพิ่มเติมด้วย
🍨 For additional documents that they let me upload further documents, I uploaded 112 pages (LOL, I kind of feel bad for the admissions):
My current résumé with education and work history, skills, languages, courses and certificates (NO PHOTO)
GED Diploma and Transcript (taken once between 2018 and 2019)
Thai High School Diploma - Mathayom 6 Certificate
Volunteer English Teacher at a non-profit organisation
UAL LCC Certificate (Digital Marketing Strategy/Online)
DELF Examen A2 Certificate (73,00/100) - French Proficiency Test
Certificate of Achievement from NZLC Auckland and Stafford House Canterbury
Media Thesis/Dissertation for almost 40 pages (around 8,000 words)
Example of my 3,000-word essay about "Representations of minorities, LGBTQ+ and the bans of Apichatpong Weerasethakul's films in Thai cinemas."
Photography projects "The Bi's Girl" and "SISTERHOOD."
Mie's websites and links to access my blogs and photography projects in English
🍨 เอกสารเพิ่มเติมที่มี่ใช้อัพโหลดด้วยสำหรับช่องเอกสารเพิ่มเติมค่ะ (เฉพาะเอกสารทั้งหมด คือ 112 หน้าค่ะ 5555 สงสาร admissions เลย):
Résumé ที่มี่ประวัติการศึกษา การทำงาน ทักษะ ภาษา คอร์สเรียนที่ลงเรียน และใบประกาศนียบัตรต่าง ๆ (ไม่แนบรูปภาพค่ะ)
วุฒิเทียบเท่าม.6 GED Diploma และทรานสคริปต์ ที่สอบตอนปี 2018-2019 ค่ะ
วุฒิมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนไทย
ใบประกาศนียบัตรเป็นครูอาสาสอนภาษาอังกฤษ
ใบประกาศนียบัตร UAL LCC ด้านการตลาดดิจิทัล
ใบประกาศนียบัตรภาษาฝรั่งเศส ระดับ A2 (คะแนน 73,00/100)
ธีสิสด้านสื่อ เกือบ 40 หน้า ประมาณ 8,000 คำค่ะ
ตัวอย่างเอสเสย์จำนวน 3,000 คำ เกี่ยวกับงานของพี่เจ้ย อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล เรื่องการแบนหนังของพี่เจ้ยในเมืองไทย
โปรเจ็คภาพถ่าย "The Bi's Girl" and "SISTERHOOD."
เว็บไซต์ของมี่และลิงก์เพื่อชมเว็บไซต์ รวมถึงโปรเจ็คการถ่ายภาพของมี่ในภาษาอังกฤษค่ะ
After the application process, NOW WHAT? | หลังจากขั้นตอนการสมัคร แล้วไงต่อล่ะทีนี้?
Your job is to COMPLETE the application related to your personal data, programme information, résumé/CV, INTS Short Answer Essays, academic history, international credentials evaluation, test scores (IELTS/Duolingo), recommendations (selecting who you want to choose and choose wisely), additional uploads and employment history. I would recommend you to review and check EVERYTHING (as if you have OCD). Especially your INTS short essays and the documents you planned to submit because you are not able to edit or change the files after you have submitted the application. It is a pretty simple, but stressful experience that you have to go through during the admissions or application process. For the letter of recommendation part, I got help from my professor (Jack) at MUIC and ex-manager (CoCo) from where I worked. I asked them to be my recommenders because I am quite close to them, and they are very helpful. Thanks to them and how they have dedicated to helping me. 😃
หน้าที่ของคุณคือการกรอกใบสมัครเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัว, ข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรม, เรซูเม่/CV, เอสเสย์, ประวัติการศึกษา, ใบประเมินเกรด (WES/ECE), ผลสอบต่าง ๆ เช่น IELTS/Duolingo, จดหมายแนะนำจากอาจารย์ (แนะนำให้เลือกให้ดีว่าอยากให้ใครเป็นคนแนะนำนะคะ), เอกสารที่อยากอัพโหลดเพิ่มเติม และประวัติการทำงาน มี่แนะนำให้ทุกคนรีวิวทุกอย่าง ทวนซ้ำทุกอย่าง โดยเฉพาะ short essays และเอกสารที่อยากอัพโหลดนะคะ เพราะเราจะไม่สามารถกลับมาแก้ไขอะไรได้หลังจากที่ submitted ค่ะ มันอาจจะดูง่าย ๆ เพลน ๆ แต่จริง ๆ ก็เครียดพอสมควรค่ะ สำหรับพาร์ทจดหมายแนะนำ มี่ได้รับการช่วยเหลือจากอาจารย์แจ๊ค ที่ MUIC และผู้จัดการเก่า (โคโค่) ค่ะ มี่ขอให้เขาช่วยเหลือเพราะค่อนข้างสนิทกับเขา และพวกเขาช่วยเหลือมี่ดีมากจริง ๆ ค่ะ ขอบคุณทั้ง 2 ท่านด้วยนะคะที่ตั้งใจช่วยเหลือมี่อย่างดีค่ะ 😃
After you have completed the application, you will be able to review everything and sign your application by typing your full legal name. Once you submit, you will not be able to fix your mistakes. You will have to pay 75 USD for the application fee. Personally, I paid with my YouTrip travel card from Kasikorn Bank in Thailand. If I am not mistaken, you have to click "submit" before paying the application fees. After that, the only thing you can do is "wait."
หลังจากที่กรอกใบสมัครเสร็จแล้ว คุณจะสามารถรีวิวทุกอย่างได้เป็นครั้งสุดท้าย และเซ็นใบสมัครด้วยการพิมพ์ชื่อจริงค่ะ หลังจากที่กด submitted แล้ว จะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว ค่าสมัครคือ 75 USD นะคะ มี่จ่ายด้วยบัตร YouTrip (travel card) จากธนาคารกสิกรค่ะ ถ้าจำไม่ผิด กด submitted ก่อนถึงจ่ายเงินค่าสมัครค่ะ หลังจากนั้นทำได้อย่างเดียวคือ "รอ" ค่ะ
Today is the day I have been anticipating! I have been waiting for so so longgggg. 😜 When the admissions decision is ready, you will receive an email notifying you that the decision is ready to be viewed like mine! You will have to log into your portal to view the decision. It will display as "yellowish", and it is only one click away, then your future is changed forever. ♾️
และวันที่รอก็มาถึงจ้า รอมานานแสนนาน อิอิ 😗 หลังจากที่การพิจารณาเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้อีเมลแบบมี่ที่แสดงให้เห็นว่าการตัดสินใจของ panel เป็นยังไงบ้างนะคะ มันจะเป็นสีเหลือง ๆ และแค่คลิกเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นอนาคตจะเปลี่ยนไปตลอดกาล ♾️
The portal will look like this! It will have confetti all over your admissions portal. You will be able to download it as a PDF, too (my PDF file has 3 pages). The first word is "Congratulations!" and the letter might look like mine. It took me from 6 June 2024 when I started my application and submitted it on 12 June 2024. I applied via the extended deadline, though. I heard back from NYU Steinhardt on 9 July at 00.16 (midnight, Bangkok timezone). I could not even sleep, so I decided to check my admissions portal. AND THEN BAAAMMMMM!!! I GOT IN!!! 🥳🎉 I had been waiting for this moment for almost a month!
หน้าตา portal จะเป็นแบบนี้ค่ะ จะมี confetti หล่นลงมาบน admissions portal นะคะ สามารถดาวน์โหลดเป็นไฟล์ PDF ได้เช่นกันค่ะ (ของมี่มี 3 หน้า) คำแรกที่เห็นจะเป็น "Congratulations!" ค่ะ แล้วจดหมายน่าจะหน้าตาคล้าย ๆ กับของมี่ค่ะ จาก 6 มิ.ย. 2024 ตอนมี่เริ่มกรอกใบสมัคร มา submitted ตอน 12 มิ.ย. 2024 มี่สมัครแบบ extended deadline ค่ะ มี่ได้รับข่าวสาร (อีเมล) จาก NYU Steinhardt ตอนวันที่ 9 ก.ค. 2024 ตอนเที่ยงคืน 16 นาทีค่ะ พอเช็คปุ๊ป BAAAAMMMMM ได้รับการตอบรับเข้าเรียนค่ะ!!! 🥹🎉 รอทั้งหมดเกือบเดือนค่ะ
Then, they will send an email saying something like "Welcome to NYU" from the programme director.
หลังจากนั้น 1 วันพอดีก็จะมีเมลมาแบบ Welcome to NYU จากโปรแกรมไดเรกเตอร์อะไรแบบนี้ค่ะ
Awww, I don't even know what to say at this point! What a journey! But I am so glad! I am so grateful for this opportunity that I have had in my life. Thank you to my family (my GuGu, my Arpo and my PaPa, who have been by my side since I first began this journey) and to my friends: Tasha and Libby, who helped me by checking my INTS essays. You guys are so good at this! Thank you everyone!!! THIS MEANS A LOT, AND I TRULY APPRECIATE IT. ❤️
อ่อววว มาถึงจุดนี้ไม่รู้เลยค่ะว่าจะพูดอะไรดี แต่ดีใจมากค่ะ! มี่รู้สึกซาบซึ้งมาก ๆ สำหรับโอกาสดี ๆ แบบนี้ที่มี่มีในชีวิต ขอบคุณครอบครัวของมี่ (กูกู อาโผ่ ป่าป๊า) ที่อยู่กับมี่มาตั้งแต่เดย์วัน และเพื่อนของมี่: ทาช่ากับลิบบี้ ที่คอยเช็ค INTS essays ให้ เพื่อน ๆ เก่งเรื่องนี้มากเลยจ้า ขอบคุณทุกคนมากนะคะ มันมีความหมายกับมี่มากจริง ๆ และมี่ซาบซึ้งมันจริง ๆ ค่ะ ❤️
This is my journey of being admitted to NYU Steinhardt for the Fall 2024 term. I do not know what else should I include in this blog. If you have any advice or suggestions, please do not hesitate to share them with me! Thank you so much for reading my blog and being with Mie throughout my postgraduate admissions journey! I appreciate it :) 😁 If I have made any mistakes, please accept my apologies.
นี่ก็เป็นบล็อกของมี่ที่ถูกตอบรับเข้าเรียน NYU Steinhardt สำหรับเทอม Fall 2024 นะคะ ไม่รู้ว่าควรจะแอดอะไรเพิ่มเติมแล้ว ถ้ามีคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถแนะนำได้นะคะ ขอบคุณมาก ๆ ที่มาอ่านบล็อกของมี่และอยู่ตรงนี้กันนะคะ มี่ซึ้งใจมาก ๆ เลยค่ะ 😁 ผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยน้า
ใครมีคำถามหรืออยากปรึกษา สามารถติดต่อมี่ได้ที่:
Facebook Page: MemoMiez - มี่ตะลุยโลก ฝากกดไลก์ กดติดตามเพจด้วยน้า ถ้ามีแรงใจจะเขียนก็จะอัพเดทลงเพจเลยคับผม อิอิ ช่องทางการติดต่อหลักเลย ใครอยากสอบถาม IB ได้ค่า 😀
Instagram: Miedya_thetraveller ใครอยากติดตามก็สามารถติดตามได้น้า แต่ไม่ค่อยโพสต์อะไรเท่าไหร่คับ 5555 อาจจะมีลงรูปวิวอะไรแบบนี้บ้างประปรายค่ะ แล้วแต่อารมณ์ 😅
First posted: 10 July 2024 at 00.11 AM (Bangkok, GMT+07.00)
Updated: 15 July 2024 at 23.27/11.27 PM (Bangkok, GMT+07.00)
Commentaires